pathology
มักสัมพันธ์กับอายุที่มากขึ้น จึงเกิดการเปลี่ยนแปลงและเสื่อมสภาพต่อโครงสร้างต่างๆของกระดูกสันหลัง โดยเมื่ออายุมากขึ้นปริมาณนํ้าในหมอนรองกระดูกมีปริมาณลดลงทำให้การรองรับแรงกระทำต่อกระดูกสันหลังลดลงส่งผลให้มีการตีบแคบ และการเสื่อมของกระดูกสันหลังตามมา ซึ่งอาจทำให้มีการรบกวนเส้นประสาทที่ออกมาจากกระดูกสันหลังระดับนั้นๆอีกด้วย โดยความรุนแรงของโรคจะเพิ่มขึ้นจากการใช้งาน เช่น ผู้ที่นั่งใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน
	อาการและอาการแสดง
- nociceptive pain :มักมีอาการปวดแบบ ปวดแหลม(sharp), ปวดตื้อ(dull-aching), ปวดตุบๆ (throbbing) บริเวณคอ, บ่าและหลังส่วนบน
 - neurophatic pain :มีอาการปวดแบบ แสบร้อน(burning),การรับรู้ความรู้สึกปวดมากกว่าปกติ(hyperalgesia) มีอาการได้ทั้ง บริเวณคอ,บ่า,แขน, ปลายนิ้วมือ
 - มักมีอาการมากขึ้นเมื่อเงยหน้า หรือกิจกรรมที่ต้องนั่งนาน
 - นอนพักหรือเปลี่ยนอิริยาบทอาการดีขึ้น
 - อาจมีอาการเวียนศีรษะ
 - อาจมีกำลังกล้ามเนื้อบริเวณบ่า ข้อศอก และนิ้วมือลดลง
 - พบการแคบลงของช่องว่างระหว่างกระดูกสันหลัง หรือมีหินปูนพอกตามกระดูกจาก x-ray
 
ปัจจัยเสี่ยง
- การยกของหนัก
 - นั่งเป็นเวลานาน
 - การสูบบุหรี่ สารนิโคตินในบุหรี่มีผลกับการไหลเวียนเลือดบริเวณกระดูกสันหลัง ทำให้เกิดการเสื่อมเร็วขึ้น
 - ผู้ที่เคยมีอาการปวดหลังร้าวลงขาเนื่องจากปัญกากระดูกสันหลังระดับเอว
 - เคยมีอุบัติเหตุบริเวณคอ
 
การรักษาทางการแพทย์
- ลดอาการปวด : ยาลดปวด,ลดอักเสบ
 - ในกรณีที่มีระดับความรุนแรงมาก :ผ่าตัด
 
การรักษาทางกายภาพบำบัด
- ระยะอักเสบ
- พักการใช้งาน/หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่กระตุ้นอาการปวด
 - ประคบเย็น , ultrasound
 - ติดเทปเพื่อลดอาการปวด
 - ออกกำลังกายกล้ามเนื้อมัดลึกบริเวณคอ/สะบักโดยไม่รบกวนอาการปวด
 
 - ระยะเรื้อรัง
- คลายกล้ามนเนื้อ
 - ลดแรงตึงตัวของเส้นประสาท
 - ระบายน้ำเหลือง
 - ขยับข้อต่อบริเวณคอ
 - ออกกำลังกล้ามเนื้อที่ช่วงลดแรงกระทำต่อข้อต่อบริเวณคอ
 - ปรับท่าทางให้ถูกต้องเหมาะสม/ปรับสภาพแวดล้อมการทำงานให้เหมาะสม
 
 
